RSUSSH 2020
NA20-048 ความแข็งผิวจุลภาคของเรซินซีเมนต์ชนิดบ่มตัวด้วยแสงและชนิดบ่มตัวสองรูปแบบหลังการฉายแสงผ่านมอนอลิธิคเซอร์โคเนียชนิดโปร่งแสงสามชนิด
นำเสนอโดย: สวรรยา เพชรที่วัง
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ไทย
Abstract
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินความแข็งผิวจุลภาคของเรซินซีเมนต์ชนิดบ่มตัวด้วยแสงและชนิดบ่มตัวสองรูปแบบ หลังจากการฉายแสงผ่านมอนอลิธิคเซอร์โคเนียชนิดโปร่งแสงสามชนิด โดยการเตรียมชิ้นงานมอนอลิธิคเซอร์โคเนียชนิดทรานส์ลูเซนต์ ซุปเปอร์ทรานส์ลูเซนต์ และเอกซ์ตราทรานส์ลูเซนต์ เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมขนาด 10×10×1 มิลลิเมตร ชนิดละ 1 ชิ้น โดยใช้เรซินซีเมนต์ 2 ชนิด ได้แก่ Variolink® N LC และ RelyX™ U200 ซึ่งผสมและใส่ลงในช่องว่างของแบบที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 5 มิลลิเมตร หนา 2 มิลลิเมตร ทำการกระตุ้นการบ่มตัวของเรซินซีเมนต์ด้วยการฉายแสงผ่านมอนอลิธิคเซอร์โคเนีย เป็นเวลา 20 วินาที โดยใช้กลุ่มที่ฉายแสงผ่านสไลด์แก้วเป็นกลุ่มควบคุม (n=5) นำชิ้นทดสอบทั้งหมด 40 ชิ้น เก็บไว้ในสภาวะมืด ที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 24 ชั่วโมงก่อนนำไปวัดค่าความแข็งผิวจุลภาคที่ด้านบนของเรซินซีเมนต์ด้วยเครื่องทดสอบความแข็งผิวจุลภาคแบบวิกเกอร์ (Vicker hardness tester) นำผลการทดสอบในแต่ละกลุ่มมาหาค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทำการวิเคราะห์สถิติด้วยการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA) และทดสอบความแตกต่างระหว่างค่าเฉลี่ยรายคู่ (Post-hoc) ด้วยการทดสอบเชิงซ้อนชนิดทูคี (Tukey’s test) ที่ระดับความเชื่อมั่นร้อยละ 95 ผลการศึกษาพบว่าความแข็งผิวจุลภาคของเรซินซีเมนต์ภายใต้เซอร์โคเนียชนิดเอกซ์ตราทรานส์ลูเซนต์ของทั้ง Variolink® N LC และ RelyX™ U200 มีค่ามากกว่าชนิดทรานส์ลูเซนต์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) สรุปผลการศึกษาได้ว่ามอนอลิธิคเซอร์โคเนียที่โปร่งแสงมากขึ้นมีผลให้เรซินซีเมนต์ทั้งสองชนิดที่อยู่ภายใต้มีความแข็งผิวจุลภาคเพิ่มขึ้น
Citation format:
สวรรยา เพชรที่วัง, และปรารมภ์ ซาลิมี. (2020). ความแข็งผิวจุลภาคของเรซินซีเมนต์ชนิดบ่มตัวด้วยแสงและชนิดบ่มตัวสองรูปแบบหลังการฉายแสงผ่านมอนอลิธิคเซอร์โคเนียชนิดโปร่งแสงสามชนิด. เอกสารสืบเนื่องจากการประชุมระดับชาติมหาวิทยาลัยรังสิต ประจำปี 2563. วันที่ 1 พฤษภาคม 2563.QUESTIONS & ANSWERS
ขอถามเรื่องสถิติหน่อยคะ เหตุใดจึงใช้การทดสอบสถิติด้วย 1-way ANOVA ในงานวิจัยนี้คะ
พอดีไม่แน่ใจว่าต้องการศึกษาตัวแปรอิสระซึ่งมี 2 เรื่องรึเปล่าคะ คือ ชนิดซีเมนต์ และชนิดของเซอร์โคเนีย
เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และสมมติฐานของการศึกษาค่ะ โดยจะเน้นไปที่ตัวแปรต้นคือความโปร่งแสงที่แตกต่างกันของเซอร์โคเนีย อย่างไรก็ตามสามารถใช้ 2-way ANOVA ได้ค่ะหากต้องการดู 2 independent variables ตามที่ท่านเสนอแนะ ซึ่งการศึกษานี้เป็นผลเพียงส่วนหนึ่งของงานวิจัยหลักของนิสิต ที่มีตัวแปรอิสระมากกว่า 2 กลุ่ม สถิติ 2-way จะนำมาเพิ่มเพื่อวิเคราะห์ตัวแปรมากกว่า 2ชนิดดังกล่าว และดู interaction ระหว่างกลุ่มค่ะ
Prof., Clinic Issarawan Boonsiri
STATUS: Chairperson
ชิ้นตัวอย่างสี่เหลี่ยมขนาด 10×10×1 มิลลิเมตร
เพิ่มชื่อเรื่องเป็น
Microhardness of Light-Cure and Dual-Cure Resin Cements after Light Transmission through Three Types of Veeneer porcelain Translucent Monolithic Zirconia
ความแข็งผิวจุลภาคของเรซินซีเมนต์ชนิดบ่มตัวด้วยแสงและชนิดบ่มตัวสองรูปแบบหลังการฉายแสงผ่านวีเนียร์พอร์ซเลนชนิดมอนอลิธิคเซอร์โคเนียชนิดโปร่งแสงสามชนิด
ชัดเจนขึ้นค่ะ
รบกวนอธิบายการฉายแสงผ่าน glass slide ที่เป็นกลุ่มควบคุมเพิ่มให้อีกซักนิดได้มั้ยคะ ไม่แน่ใจว่า เป็นการฉายแสงผ่านแผ่น glass slide โดยตรงเลย โดยไม่มีแผ่นของชิ้นงาน Zirconia วางกั้นเลยใช่หรือไม่คะ??
ถ้าใช่ ระยะการฉายแสงในกลุ่มควบคุมนี้ก็จะน้อยกว่ากลุ่มที่มีการฉายแสงผ่านชิ้น Zirconia ที่มีความหนา 1 มม ทำให้ระยะการฉายแสงตรงนี้ไม่ได้ควบคุม ไม่ทราบว่า มีความเห็นอย่างไรเกี่ยวกับระยะห่างของการฉายแสงกับ rate of polymerization ที่จะส่งผลต่อการวัด hardness ของวัสดุคะ?
ขอบคุณค่ะ
ขอขอบพระคุณ ข้อแนะนำของ PROF., CLINIC ISSARAWAN BOONSIRI นะคะ
ขอตอบคำถาม SPUN LENGLERDPHOL ค่ะ การศึกษานี้ใช้ glass slide ที่มีความหนา 1 มิลลิเมตร เท่ากับความหนาของกลุ่มทดลองที่ใช้เซอร์โคเนียค่ะ ซึ่งมีความคิดเห็นเช่นเดียวกันค่ะว่าเป็นปัจจัยที่ต้องควบคุม โดยระยะห่างในการฉายแสงที่ต่างกันอาจส่งผลต่อการเกิดพอลิเมอร์ไรเซชันที่ต่างกันได้ ทั้งนี้ทำการควบคุมแล้วด้วยการวัดความหนาของชิ้นงานทุกกลุ่มด้วยเครื่องมือวัดเวอร์เนียดิจิตอลค่ะ